เหตุผลของการชงกาแฟโบราณสดอร่อยกว่ากาแฟโบราณสำเร็จรูป
เรียนทำน้ำปั่น เรียนทำกาแฟโบราณ เรียนน้ำปั่น เรียนกาแฟโบราณ น้ำปั่น กาแฟโบราณ กาแฟโบราณผงสำเร็จรูป ที่เราเห็นส่วนใหญ่นั้น คือน้ำกาแฟโบราณสดที่ถูกนำไปทำให้แห้งเพื่อให้เกิดความสะดวกในขั้นตอนการชงดื่ม โ
เหตุผลของการชงกาแฟโบราณสดอร่อยกว่ากาแฟโบราณสำเร็จรูป
เรียนทำน้ำปั่น เรียนทำกาแฟโบราณ เรียนน้ำปั่น เรียนกาแฟโบราณ น้ำปั่น กาแฟโบราณ
กาแฟโบราณผงสำเร็จรูป ที่เราเห็นส่วนใหญ่นั้น คือน้ำกาแฟโบราณสดที่ถูกนำไปทำให้แห้งเพื่อให้เกิดความสะดวกในขั้นตอนการชงดื่ม โดยทำการชงได้สะดวกรวดเร็ว ซึ่งไม่ต้องมีอุปกรณ์และขั้นตอนการชงที่ยุ่งยากวุ่นวาย เพราะกาแฟโบราณผงสำเร็จรูปที่หลายคนทราบก็คือ...เป็นกาแฟโบราณที่สามารถละลายในน้ำร้อนได้หมด และไม่มีกากกาแฟโบราณเหลืออยู่เหมือนกับการชงกาแฟโบราณสด แถมยัง เก็บรักษาง่าย กลิ่นและรสชาติก็ไม่แปรปรวน ที่สำคัญยังพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก
ความแตกต่างของกาแฟโบราณสดและกาแฟโบราณสำเร็จรูป
สำหรับกาแฟโบราณสด ก็คือเป็นการชงกาแฟโบราณแบบสดใหม่ตอนที่ต้องการจะดื่ม ซึ่งจะต่างจากกาแฟโบราณสำเร็จรูปคือ กาแฟโบราณสดจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากกว่า ทั้งต้องบดเมล็ดกาแฟโบราณและนำใส่เครื่องชงซึ่งมีหลากหลายชนิดให้เลือกใช้ และจะต้องกรองกากกาแฟโบราณออกเพื่อให้เหลือแต่น้ำกาแฟโบราณสำหรับพร้อมดื่ม อีกทั้งการเก็บรักษาน้ำกาแฟโบราณสดเพื่อให้คงรสชาติและกลิ่นไว้ได้ดี ยังทำได้ยากกว่ากาแฟโบราณสำเร็จรูปอีกด้วย
กระบวนการผลิตต่างกัน ทำให้รสชาติกาแฟโบราณสดต่างกัน
กาแฟโบราณสด
กาแฟโบราณสด จะเริ่มต้นตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดกาแฟโบราณดิบพันธุ์ดี มาทำการคั่วในระดับต่างๆ แล้วแต่เทคนิคของแต่ละยี่ห้อ แต่ละคน จากนั้นนำมาบดให้เป็นผงแล้วจึงนำผงกาแฟโบราณนั้นเข้าเครื่องชงกาแฟโบราณแล้วทำการสกัดเป็นน้ำกาแฟโบราณสดออกมา จะเหลือกากกาแฟโบราณซึ่งกินไม่ได้ โดยกาแฟโบราณสดจะให้รสชาติอร่อย หอมละมุนกว่า เนื่องจากการคัดเลือกเมล็ดกาแฟโบราณพันธุ์ดี ที่ได้รับการคั่วบดและเก็บรักษามาอย่างดีก่อนทำการชงนั่นเอง ในขั้นตอนการชงที่สดใหม่ก็จะเป็นการสนับสนุนรสและกลิ่นของกาแฟโบราณสดให้ดีขึ้นอีก ทำให้เป็นที่ต้องการของผู้คนส่วนมาก ราคาจึงสูงกว่ากาแฟโบราณสำเร็จ
กาแฟโบราณสำเร็จรูป
ขั้นตอนการทำกาแฟโบราณสำเร็จรูป : คือ การคัดเลือกคุณภาพและเมล็ดกาแฟโบราณ มาทำความสะอาด
การผสมกาแฟโบราณ : คือ การนำเมล็ดกาแฟโบราณพันธุ์ต่างๆ ที่คัดเลือกมาผสมกันตามสูตรเฉพาะของแต่ละยี่ห้อ ส่วนใหญ่ใช้เป็นโรบัสต้า แต่ในบางสูตรอาจจะผสมอาราบิก้าเพื่อให้ได้รสที่กลมกล่อมยิ่งขึ้น
การคั่วเมล็ดกาแฟโบราณ : การคั่วจะใช้อุณหภูมิประมาณ 200 องศาเซลเซียส เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการผลิตกาแฟโบราณ เพราะรสชาติและกลิ่นของกาแฟโบราณจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลงก็อยู่ที่ขั้นตอนนี้
การบด : เป็นการใช้เครื่องบดเมล็ดกาแฟโบราณ ระดับการบดทั่วไปคือ บดหยาบ บดหยาบปานกลาง บดละเอียดแต่จะละเอียดมากหรือน้อยขึ้นอยู่ที่เทคนิคของแต่ละที่
การสกัด : คือ การแยกส่วนที่ละลายน้ำได้ในกาแฟโบราณคั่วบดออกมา โดยใช้น้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อให้อุณหภูมิสูงกว่าจุดเดือดของน้ำ และยังช่วยเพิ่มอัตราการละลายของสารกาแฟโบราณ เพื่อให้ได้น้ำกาแฟโบราณที่มีความเข้มข้นอยู่ที่ 15-25 เปอร์เซ็นต์
การทำแห้ง : คือ การแยกส่วนของกาแฟโบราณกับน้ำที่เป็นตัวทำละลายออกจากกัน ทำให้น้ำระเหยออกไป ด้วยวิธีทำแห้งแบบพ่นฝอย จะได้ผงกาแฟโบราณมีลักษณะสีน้ำตาลเข้ม ขนาดเล็ก แม้จะได้รับความนิยมมาก แต่จะทำให้กลิ่นและรสชาติสูญเสียไปค่อนข้างมากส่วนใหญ่ใช้กาแฟโบราณสายพันธุ์โรบัสต้า ส่วนอีกวิธีคือ การทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง คือทำให้ของแข็งกลายเป็นไอโดยไม่ละลาย ลักษณะผงกาแฟโบราณจะเป็นเกล็ดขนาดใหญ่กว่า มีสีน้ำตาลอมทอง สามารถรักษากลิ่นและความสดของเมล็ดกาแฟโบราณดั้งเดิมไว้ได้ดี
หลังจากได้ผงกาแฟโบราณแห้งแล้ว จึงนำเข้าบรรจุภัณฑ์ โดยผงกาแฟโบราณสำเร็จรูปเป็นกาแฟโบราณชนิดปรุงสำเร็จต่างจากกาแฟโบราณสดตรงที่มีความง่ายต่อการบริโภคหรือเรียกว่า 3 in 1 มีทั้งแบบเข้ม หวานมัน กลมกล่อม ฯลฯ จะเห็นได้ว่าขั้นตอนการผลิตกาแฟโบราณสำเร็จรูปไม่ได้ง่าย เพียงแต่ขั้นตอนทั้งหมดเมื่อสำเร็จมาจากโรงงานแล้ว ก็จะช่วยลดขั้นตอนและความยุ่งยากในการชงดื่ม แต่มีข้อเสียคือรสชาติและกลิ่นที่เสียไปในกระบวนการผลิต แม้จะมีความสะดวกสบายแต่คนส่วนใหญ่ยังชอบที่จะดื่มกาแฟโบราณสด ที่แม้จะยุ่งยากและราคาแพงกว่า แต่ก็เพื่อแลกกับรสชาติที่ดีกว่าเช่นกัน
เรียนทำน้ำปั่น เรียนทำกาแฟโบราณ เรียนน้ำปั่น เรียนกาแฟโบราณ น้ำปั่น กาแฟโบราณ กาแฟโบราณผงสำเร็จรูป ที่เราเห็นส่วนใหญ่นั้น คือน้ำกาแฟโบราณสดที่ถูกนำไปทำให้แห้งเพื่อให้เกิดความสะดวกในขั้นตอนการชงดื่ม โดยทำการชงได้สะดวกรวดเร็ว ซึ่งไม่ต้องมีอุปกรณ์และขั้นตอนการชงที่ยุ่งยากวุ่นวาย เพราะกาแฟโบราณผงสำเร็จรูปที่หลายคนทราบก็คือ...เป็นกาแฟโบราณที่สามารถละลายในน้ำร้อนได้หมด และไม่มีกากกาแฟโบราณเหลืออยู่เหมือนกับการชงกาแฟโบราณสด แถมยัง เก็บรักษาง่าย กลิ่นและรสชาติก็ไม่แปรปรวน ที่สำคัญยังพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ความแตกต่างของกาแฟโบราณสดและกาแฟโบราณสำเร็จรูป สำหรับกาแฟโบราณสด ก็คือเป็นการชงกาแฟโบราณแบบสดใหม่ตอนที่ต้องการจะดื่ม ซึ่งจะต่างจากกาแฟโบราณสำเร็จรูปคือ กาแฟโบราณสดจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากกว่า ทั้งต้องบดเมล็ดกาแฟโบราณและนำใส่เครื่องชงซึ่งมีหลากหลายชนิดให้เลือกใช้ และจะต้องกรองกากกาแฟโบราณออกเพื่อให้เหลือแต่น้ำกาแฟโบราณสำหรับพร้อมดื่ม อีกทั้งการเก็บรักษาน้ำกาแฟโบราณสดเพื่อให้คงรสชาติและกลิ่นไว้ได้ดี ยังทำได้ยากกว่ากาแฟโบราณสำเร็จรูปอีกด้วย กระบวนการผลิตต่างกัน ทำให้รสชาติกาแฟโบราณสดต่างกัน กาแฟโบราณสด กาแฟโบราณสด จะเริ่มต้นตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดกาแฟโบราณดิบพันธุ์ดี มาทำการคั่วในระดับต่างๆ แล้วแต่เทคนิคของแต่ละยี่ห้อ แต่ละคน จากนั้นนำมาบดให้เป็นผงแล้วจึงนำผงกาแฟโบราณนั้นเข้าเครื่องชงกาแฟโบราณแล้วทำการสกัดเป็นน้ำกาแฟโบราณสดออกมา จะเหลือกากกาแฟโบราณซึ่งกินไม่ได้ โดยกาแฟโบราณสดจะให้รสชาติอร่อย หอมละมุนกว่า เนื่องจากการคัดเลือกเมล็ดกาแฟโบราณพันธุ์ดี ที่ได้รับการคั่วบดและเก็บรักษามาอย่างดีก่อนทำการชงนั่นเอง ในขั้นตอนการชงที่สดใหม่ก็จะเป็นการสนับสนุนรสและกลิ่นของกาแฟโบราณสดให้ดีขึ้นอีก ทำให้เป็นที่ต้องการของผู้คนส่วนมาก ราคาจึงสูงกว่ากาแฟโบราณสำเร็จ กาแฟโบราณสำเร็จรูป ขั้นตอนการทำกาแฟโบราณสำเร็จรูป : คือ การคัดเลือกคุณภาพและเมล็ดกาแฟโบราณ มาทำความสะอาด การผสมกาแฟโบราณ : คือ การนำเมล็ดกาแฟโบราณพันธุ์ต่างๆ ที่คัดเลือกมาผสมกันตามสูตรเฉพาะของแต่ละยี่ห้อ ส่วนใหญ่ใช้เป็นโรบัสต้า แต่ในบางสูตรอาจจะผสมอาราบิก้าเพื่อให้ได้รสที่กลมกล่อมยิ่งขึ้น การคั่วเมล็ดกาแฟโบราณ : การคั่วจะใช้อุณหภูมิประมาณ 200 องศาเซลเซียส เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการผลิตกาแฟโบราณ เพราะรสชาติและกลิ่นของกาแฟโบราณจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลงก็อยู่ที่ขั้นตอนนี้ การบด : เป็นการใช้เครื่องบดเมล็ดกาแฟโบราณ ระดับการบดทั่วไปคือ บดหยาบ บดหยาบปานกลาง บดละเอียดแต่จะละเอียดมากหรือน้อยขึ้นอยู่ที่เทคนิคของแต่ละที่ การสกัด : คือ การแยกส่วนที่ละลายน้ำได้ในกาแฟโบราณคั่วบดออกมา โดยใช้น้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อให้อุณหภูมิสูงกว่าจุดเดือดของน้ำ และยังช่วยเพิ่มอัตราการละลายของสารกาแฟโบราณ เพื่อให้ได้น้ำกาแฟโบราณที่มีความเข้มข้นอยู่ที่ 15-25 เปอร์เซ็นต์ การทำแห้ง : คือ การแยกส่วนของกาแฟโบราณกับน้ำที่เป็นตัวทำละลายออกจากกัน ทำให้น้ำระเหยออกไป ด้วยวิธีทำแห้งแบบพ่นฝอย จะได้ผงกาแฟโบราณมีลักษณะสีน้ำตาลเข้ม ขนาดเล็ก แม้จะได้รับความนิยมมาก แต่จะทำให้กลิ่นและรสชาติสูญเสียไปค่อนข้างมากส่วนใหญ่ใช้กาแฟโบราณสายพันธุ์โรบัสต้า ส่วนอีกวิธีคือ การทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง คือทำให้ของแข็งกลายเป็นไอโดยไม่ละลาย ลักษณะผงกาแฟโบราณจะเป็นเกล็ดขนาดใหญ่กว่า มีสีน้ำตาลอมทอง สามารถรักษากลิ่นและความสดของเมล็ดกาแฟโบราณดั้งเดิมไว้ได้ดี หลังจากได้ผงกาแฟโบราณแห้งแล้ว จึงนำเข้าบรรจุภัณฑ์ โดยผงกาแฟโบราณสำเร็จรูปเป็นกาแฟโบราณชนิดปรุงสำเร็จต่างจากกาแฟโบราณสดตรงที่มีความง่ายต่อการบริโภคหรือเรียกว่า 3 in 1 มีทั้งแบบเข้ม หวานมัน กลมกล่อม ฯลฯ จะเห็นได้ว่าขั้นตอนการผลิตกาแฟโบราณสำเร็จรูปไม่ได้ง่าย เพียงแต่ขั้นตอนทั้งหมดเมื่อสำเร็จมาจากโรงงานแล้ว ก็จะช่วยลดขั้นตอนและความยุ่งยากในการชงดื่ม แต่มีข้อเสียคือรสชาติและกลิ่นที่เสียไปในกระบวนการผลิต แม้จะมีความสะดวกสบายแต่คนส่วนใหญ่ยังชอบที่จะดื่มกาแฟโบราณสด ที่แม้จะยุ่งยากและราคาแพงกว่า แต่ก็เพื่อแลกกับรสชาติที่ดีกว่าเช่นกัน